ในอดีตภาษาคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่าฟอร์แทรนและโคบอลเป็นภาษาที่นิยมให้มากที่สุด ภาษาฟอร์แทรนพัฒนาขึ้นใช้ในปี พ.ศ. 2499 เป็นภาษาที่ใช้เพื่อประยุกต์ งานด้านตัวเลขได้ดีเยี่ยม ส่วนภาษาโคบอลพัฒนาขึ้นในปี พ.ศ. 2502 มุ่งใช้งานด้านประมวลผลธุรกิจ สำหรับภาษาปาสคาลได้รับการพัฒนาขึ้นในปี พ.ศ. 2513 โดย นิเคลาส์ เวียร์ธ(Niklaus Wirth) แห่งเทคนิเคิล ยูนิเวอร์ซิตี้ ในเมืองซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมแพร่หลายในปัจจุบันและจะนิยมกันมาก ในอนาคต จุดประสงค์ของการใช้ภาษาปาสคาลเบื้องแรกก็คือ ฝึกนิสัยการเขียนโปรแกรมให้มีระเบียบระบบหรือฝึกการเขียนโปรแกรมโครงสร้าง ภาษาปาสคาลเป็น ภาษาที่ออกแบบขึ้นให้มีความง่ายต่อการทำงาน การเข้าใจและการใช้ ปาสคาลเป็นชื่อของนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศสชื่อว่า Blaise Pascal ซึ่งได้คิดเครื่องคำนวณ ระบบกลไกขึ้นเป็นคนแรกจึงได้รับเกียรติให้ตั้งเป็นชื่อภาษาคอมพิวเตอร์ซึ่งเวียร์ธเป็นผู้สร้างภาษานี้ขึ้น ใช้กันกว้างขวางในสหรัฐอเมริกาและยุโรปเพื่อสอนการเขียน โปรแกรมโครงสร้าง และใช้เป็นภาษาเอนกประสงค์(general purpose) ซึ่งประยุกต์ใช้ได้ทั้งคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่และไมโครคอมพิวเตอร์โปรแกรมง่าย ๆโปรแกรมภาษาปาสคาลที่สมบูรณ์และง่ายที่สุดจะต้องเป็นดังนี้ PROGRAM MyfirstProgram(OUTPUT);BEGIN WRITELN(‘This is my program); END. เมื่อโปรกรม ดำเนินการจะให้ผลลัพธ์ดังนี้ This my program. โปรแกรมภาษาปาสคาลจะเขียนอักษรตัวพิมพ์เล็ก ตัวพิมพ์ใหญ่ เมื่อไร ตรงไหนปนเปกันอย่างไร ก็ได้ คอมพิวเตอร์จะดูด้วยตนเองว่ามันจะทำงานจริงหรือไม่ โครงสร้างของโปรแกรมปาสคาล โครงสร้างของโปรแกรมประกอบด้วยการตั้งหัวเรื่อง โดยการตั้งชื่อของโปรแกรมขึ้นเองในบรรทัดแรกด้วยคำว่า PROGRAM MyfirstProgram คำว่าBEGIN เป็นส่วนที่แสดงจุดเริ่มต้นของโปรแกรม ในทางตรงกันข้าม END. แสดงว่าเป็นส่วนของโปรแกรมที่สิ้นสุดการทำงาน และเมื่อจั่วหัวโปรแกรมจะตามด้วยชื่อโปรแกรมที่เรา ตั้งเอง แล้วตามด้วยเครื่องหมาย ; สรุปได้ว่าโครงสร้างของโปรแกรมเป็นดังนี้ ในขั้นแรก ไปดูโครงสร้างของการเขียน pascal กันค่ะ
ในเรื่องของตัวแปร ( variable )
คำสั่งพื้นฐานที่จะต้องทำความรู้จักก็คือ write( ) ;
โครงสร้างขั้นพื้นฐาน
เป็นไปตามที่ได้กล่าวไว้ค่ะ ได้แก่ 1. ส่วนประกาศตัวแปร ( var .. ) 2. ส่วนการทำงาน ( begin .. ไปถึง end.)แต่ความจริงยังมีส่วนประกอบ อีกหลายส่วน เช่น การประกาศค่าคงที่ การเรียกยูนิตมาใช้การเขียน โพรซีเจอร์ และฟังชั่น การประกาศตัวแปร local และ global
ลักษณะการใช้ถ้อยคำและชื่อในภาษาปาสคาลมี2 ลักษณะ 1. คำสงวน (Reserved word) คือชื่อต่าง ๆ ที่มีความหมายอย่างเดียวกันเสมอไม่ว่าจะเขียนขึ้นที่ใดของโปรแกรม เป็นคำหรือชื่อที่นิยามไว้เป็นการเฉพาะ เช่น คำที่เขียน
ว่า BEGIN END REPEAT DIVเป็นต้น 2. ชื่อที่ตั้งขึ้น (identifier) คือชื่อต่าง ๆ ที่ผู้เขียนโปรแกรมตั้งขึ้นเพื่อจะระบุถึงตัวแปรที่จะเก็บไว้ในหน่วยความจำเพื่อช่วยเตือนความทรงจำของผู้เขียนโปรแกรมว่าชื่อที่ตั้ง ขึ้นมีจุดประสงค์ที่จะใช้ในโปรแกรมอย่างไร ดังนั้นจึงนิยามขึ้นมาเฉพาะในแต่ละโปรแกรม ความหมายของชื่อจึงเปลี่ยนไป ชื่อที่ตั้งขึ้น(identifier) จะต้องด้วยตัวอักษรแล้วตาม ด้วยศูนย์ หรือตัวอักษรหรือตัวเลขเท่านั้น และต้องเขียนทุกตัวติดกันหมด เช่น CURRENTSCORE,Y12,MY_BIRTH_DAY, NCC1997 เป็นต้น จำนวนตัวอักษรหรือ ความยาวของชื่อเขียนได้โดยไม่จำกัด แต่คอมไพเลอร์บางตัวจะใช้อักขระเพียง 8 ตัวแรกเท่านั้น นิยมใช้ชื่อที่สื่อความหมายในสิ่งที่เราหมายถึงโดยใช้คำสั้น ๆ แทนข้อความที่สมบูรณ์ กฎเกณฑ์ของซีนเท็กซ์ (syntax) คือกฎที่นิยามโครงสร้างของภาษา ภาษาที่เราใช้ในการเขียนโปรแกรมมนุษย์สามารถเข้าใจความหมายได้แต่คอมพิวเตอร์ไม่สามารถเข้าใจเว้นแต่โปรแกรมปาสคาลนี้จะต้องถูกแปลหรือคอมไพล์ให้เป็นภาษาเครื่อง ก่อนหากถูกคอมไพล์โดยไม่ผิดพลาดในเรื่องซีนแท็กซ์แล้วละก็ โปรแกรมสามารถดำเนินการ(execute) ได้ |
หากต้องการทราบการอัพเดทของ เขียนโปรแกรม ภาษาปาสคาล และเรื่องที่เกี่ยวข้อง แนะนำให้กด ที่ facebook ด้านล่างนี้เลยค่ะ เผื่อที่จะได้อัพเดทก่อนใคร
อัพเดทเมื่อ วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ในหมวดหมู่ของ เขียนโปรแกรม เรื่อง เขียนโปรแกรม ภาษาปาสคาล