สวัสดีครับ
จากเสียงสะท้อนที่ได้รับ ทำให้ผมสรุปได้ว่า ในเรื่องทักษะภาษาอังกฤษ คนไทยอยากพูดเก่ง มากกว่าอ่านเก่ง หรือเขียนเก่ง และปัญหาที่ทำให้ไม่เก่งอย่างต้องการก็คือ ไม่มีโอกาส – ไม่มีเวลา – ไม่มีเงินที่จะไปเรียนกับอาจารย์หรือโรงเรียนสอนพูดภาษาอังกฤษ หลายคนดาวน์โหลดหนังสือ, ไฟล์ mp3, คลิป, หรือโปรแกรมเรียนภาษาอังกฤษไว้มากมาย แต่ก็แทบไม่ได้ใช้มัน เพราะว่ามันไม่ใช่ครู จึงไม่ต้องการเรียนกับมัน ต่อให้ใครพูดแทบตายว่านั่นเป็นสื่อการศึกษาภาษาอังกฤษด้วยตัวเองที่ใช้ได้ผล ก็ไม่ฟังเพราะไม่เชื่อ
ถ้าเราเป็นไข้ไม่สบาย เวียนหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน แล้วมีใครบอกว่า ไม่ต้องไปหาหมอหรอก อ่านตำรารักษาตัวเองก็ได้ ตำราแนะนำให้กินยาอะไรก็กินตามนั้น ไม่ต้องไปหาหมอเพราะตำราที่อ่านก็หมอนั่นแหละเป็นคนเขียน เพราะฉะนั้นอ่านตำราก็เหมือนกับไปหาหมอ แล้วจะต้องไปหาหมอจริง ๆ ให้เสียเงินเสียเวลาทำไม ท่านจะเชื่อคนที่แนะนำอย่างนี้ไหม ผมเชื่อว่าท่านไม่เชื่อ
ทำไมท่านจึงไม่เชื่อ คำตอบง่ายมากครับ
1.เรื่องโรคภัยไข้เจ็บเป็นเรื่องซับซ้อน ตำรารักษาโรคที่ดีวิเศษปานใดก็ไม่สามารถใช้แทนหมอซึ่งสะสมประสบการณ์จริงจากการรักษา ตำราจึงใช้แทนหมอไม่ได้
2.เรื่องโรคภัยไข้เจ็บเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ซึ่งเราไม่สามารถเอาการลองผิด-ลองถูกเข้าไปเสี่ยง ถ้าเกิดลองแล้วผิดชีวิตคนไข้ซึ่งมีอยู่หนึ่งเดียวก็เสียไปเลย เอาคืนไม่ได้
แต่
น่าเสียดายยิ่งนัก....
น่าเสียดายยิ่งนัก....
น่าเสียดายยิ่งนัก....
น่าเสียดายอะไร ? น่าเสียดายที่คนไทยชอบเอาการรักษาโรคภาษาอังกฤษอ่อนแอ ไปเปรียบเทียบกับอาการเจ็บไข้ร่างกายอ่อนแอ และเชื่ออย่างนั้นอย่างสนิทใจ
โดยไม่ยอม...
ไม่ยอมอ่านตำราภาษาภาษาอังกฤษ เพื่อรักษาโรคภาษาอังกฤษอ่อนแอของตัวเอง เหมือนกับที่ไม่ยอมซื้อตำรารักษาโรคมาอ่าน เพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บของตัวเอง
จะต้อง...
จะต้องเรียนกับครูสอนภาษาอังกฤษให้ได้ ถ้าไม่มีครูก็ยอมตายคาบ้านไม่ยอมรักษาโรคภาษาอังกฤษอ่อนด้วยตัวเอง เหมือนกับที่จะต้องรักษาโรคกับหมอให้ได้ ถ้าไม่มีหมอก็ยอมรับสภาพ นอนรอความตาย
แต่... แท้จริงแล้วการรักษาโรคภาษาอังกฤษอ่อน กับการรักษาโรคภัยไข้เจ็บทางร่างกาย เป็น 2 เรื่องที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
แตกต่างกันยังไง?
หนึ่ง -การรักษาโรคภาษาอังกฤษอ่อน เราสามารถเป็นหมอรักษาตัวเองได้ ยิ่งรักษายิ่งเพิ่มประสบการณ์ ยิ่งชำนาญ
สอง –การรักษาโรคภัยไข้เจ็บทางร่างกาย ห้ามลองผิด เพราะการลองผิดอาจจะหมายถึงความตายที่ไม่มีทางแก้ แต่การรักษาโรคภาษาอังกฤษอ่อนต้องยอมลองผิด เพราะการลองผิดช่วยให้เรามีประสบการณ์ตรง อันนำไปสู่การลองถูก และไม่ย้อนกลับมาลองผิดอีก เพราะฉะนั้น การลองผิดจึงเป็น step ที่สำคัญของการรักษาโรคภาษาอังกฤษอ่อน ซึ่งควรยินดี แทนที่จะอับอายหรือรังเกียจ
@@@@@
บ่อยครั้งที่ผมเจอรุ่นน้องที่พูดว่า ทิ้งภาษาอังกฤษมานานตั้งแต่เรียนจบ อยากจะฟื้นฟูใหม่ตั้งแต่เริ่ม เขาทำเหมือนกับว่าตั้งแต่เกิดมาเป็นตัวตนเขาไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษมาเลย เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องการ
อันดับแรก – มีโอกาสได้เรียนกับอาจารย์เก่ง ๆ ที่สอนสนุก ไม่เครียด เรียนไปหัวเราะไป และถ้าจะให้ดี ก็ไม่ต้องมีงานให้กลับไปทำเป็นการบ้านคนเดียวโดยไม่มีครูอยู่ใกล้ ๆ ให้เพลิดเพลิน ผมขอถามง่าย ๆ สัก 3 ข้อเถอะครับ
-อาจารย์เก่งอย่างที่ว่านี้ท่านหาเจอได้ง่าย ๆ มั้ย?
-ถ้าท่านเจอ และเรียนจบกับอาจารย์แล้ว ท่านสามารถนำสิ่งที่อาจารย์สอนไปเรียนด้วยตัวเองได้หรือเปล่า?
-ถ้าท่านเรียนด้วยตัวเองไม่ได้ ท่านจะต้องหาทางมาเรียนกับอาจารย์ทั้งปีทั้งชาติหรือเปล่าครับ เพื่อให้ตัวเองเก่งภาษาอังกฤษ?
ถ้า choice คือเรียนกับอาจารย์อย่างถาวรทำไม่ได้ (มันทำไม่ได้อยู่แล้ว!!) ก็เหลือทางเลือกอันดับสอง คือ ศึกษากับหนังสือ, ไฟล์ mp3, คลิป, หรือโปรแกรมเรียนภาษาอังกฤษ ที่ทำหน้าที่แทนอาจารย์ หลายคนต้องจับทางเลือกนี้อย่างจำใจ และไม่ยอมทำอะไรกับมัน
เขารออะไร... ?
เขารอให้มีคนมาบอกคำตอบสำเร็จรูปในวิธีการศึกษาภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ถ้าไม่มี ก็ปล่อยให้หนังสือ, ไฟล์ mp3} คลิป, หรือโปรแกรม ที่สะสมไว้หรือมีคนนำมาให้นอนค้างอยู่อย่างนั้น
และแล้ววันหนึ่งเขาก็โชคดี มีคนมาบอกวิธีการศึกษาภาษาอังกฤษด้วยตัวเองที่สนุก ไม่เครียด ไม่ต้องหักโหม และได้ผลอย่างรวดเร็ว เขาดีใจและมีความหวังขึ้นมา และก็ลองทำตามวิธีนั้น
แต่ในไม่ช้าเขาก็พบว่า วิธีที่ลองทำมันก็ไม่สนุกนัก ออกจะเครียด บางครั้งต้องออกแรงเยอะแต่กลับได้ผลน้อยและช้าไม่ทันใจ เขาก็เลยเลิกทำ
และเขาก็กลับไปสู่สภาพเดิม คือรอให้มีใครมาบอกวิธีสำเร็จรูปในการศึกษาภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ที่ดีเลิศประเสริฐศรี ที่มีเงื่อนไขว่า ต้องสนุก ไม่เครียด ไม่ต้องหักโหม และได้ผลอย่างรวดเร็ว และตอนนี้ก็ยังรออยู่อย่างนั้น
@@@@@@
ผมรู้สึกว่ามีลักษณะการใช้ชีวิตของฝรั่งอย่างหนึ่งที่คนไทยรับมาแต่ก็ยังไม่เต็มที่นัก คือ การทำอะไรให้เป็นด้วยตัวเอง คำจำพวกนี้ที่เราได้ยินบ่อย ๆ คือ how-to และ DIY- Do It Yourself มันอาจจะเป็นเพียงหนังสือที่แนะนำทิบหรือเทคนิคที่ช่วยแนะวิธีทำของยากให้ง่าย และวิธีที่หนังสือแนะนำอาจจะสั้น ๆ เพียง 2-3 ประโยค อ่านแล้วเข้าใจและนำไปทำได้ทันที หรือมันอาจจะยาว ๆ เป็นบท ๆ หรือเป็นเล่ม ต้องลงทุนศึกษาและฝึกฝน หรืออาจจะมีชุดอุปกรณ์ที่ขายพร้อมคู่มือ เช่นให้ท่านเป็นช่างเองในบ้านโดยไม่ต้องจ้างช่างอาชีพมาซ่อมนั่นซ่อมนี่ให้เสียเงิน ฝรั่งเขาต้องทำอย่างนี้อาจจะเพราะว่าค่าจ้างช่างแพง พ่อบ้านแม่บ้านจึงต้องเรียนรู้ทำของพวกนี้ด้วยตัวเอง วัฒนธรรม DIY จึงแน่นในบ้านเขามากกว่าในบ้านเราที่สามารถจ้างช่างได้ง่ายกว่า เพราะราคาไม่แพงนัก
ณ นาทีนี้ สำหรับท่านที่ต้องการรักษาโรคภาษาอังกฤษอ่อนแอของตัวเอง ผมเห็นว่า เมื่อท่านอ่าน how-to ในการรักษาโรคฯ ท่านก็ต้องลงทุนทำตาม how-to นั้น เพราะเมื่อเรามองดูสภาวะของความจำเป็นในการศึกษาภาษาอังกฤษเพื่อการค้าและการอยู่รอดของคนทั้งโลก เราก็เห็นได้ชัดว่า การศึกษาภาษาอังกฤษเป็น DIY- Do It Yourself ไปเสียแล้ว ท่านอย่าไปหวังเลยครับว่า จะมีหน่วยงานภาครัฐหรือภาคเอกชน นี่-นั่น-โน่น มาช่วยท่านจนสมใจ ถ้าท่านขอเขามาก เขาอาจจะตอบกลับว่า DIY!!
@@@@@
วันนี้กลับจากที่ทำงาน ก่อนที่จะขึ้นลิฟต์ไปยังห้องอพาร์ตเมนท์ที่พัก ผมลองทำตามคำแนะนำในการฝึกพูดภาษาอังกฤษที่ผมเคยให้แก่ท่านผู้อ่านเมื่อหลายปีมาแล้ว คือฝึกพูดภาษาอังกฤษคนเดียวโดยจินตนาการว่าพูดกับเพื่อนคนใดคนหนึ่งที่สนิท ผมเดินไปตามตึกแถว ๆนั้น เลือกย่านที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน แล้วลองนึกเติมคำในช่องว่าของ 2 ประโยคนี้
ประโยคที่ 1:
สิ่งของ (จับต้องได้ หรือ นามธรรม) is….. เช่น
7-Eleven is…..
A dictionary is….
Love is….
My mother is…
My house is…
สมศักดิ์(เพื่อนคนหนึ่ง) is…
นครราชสีมา is…
วัดพระแก้ว is…
ส้วม is….
ผมพยายามนึกถึงสิ่งนั้นสิ่งนี้สารพัดอย่าง แล้วพยายามพูดต่อประโยคให้จบ ออกมาเสียงดังพอให้ตัวเองได้ยิน ถ้านึกคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่จะใช้ไม่ออก ก็พยายามเค้นหาคำศัพท์ง่าย ๆ สมัยชั้นประถมที่ยังหลงเหลือมาถึงวันนี้ นึกโดยไม่รีบ แต่นึกไม่หยุด และนึกดัง ๆ โดยพูดออกมา จะพูดช้า พูดหยุด พูดซ้ำ ๆ ซาก ๆ พูดผิด ๆ ยังไงไม่ก็ไม่เป็นไร(เพราะพูดอยู่คนเดียว) แต่พยายามนึกไม่หยุดและพูดไม่หยุด คำใดที่สามารถต่อประโยคที่ 2 ได้ก็ต่อ คำใดต่อไม่ได้หรือไม่อยากต่อก็เลื่อนไปคำใหม่ ผมพยายามทำสัก 20 คำ
และประโยคที่ 2:
I like (สิ่งของ) because…… เช่น
I like เชียงใหม่ because….
I like my job because….
I like น้องกุ้ง because….
I like ท่านชายพุฒิภัทร because….
ฯลฯ
วิธีนึกและพูด ก็ฝึกอย่างประโยคที่ 1
ความสำเร็จของการฝึก ไม่ได้วัดจากถ้อยคำหรือประโยคหรูหรา สละสลวย ที่เราสามารถนึกเอามาแต่งต่อเติม แต่อยู่ตรงที่เราสามารถใช้การออกกำลังสมองเช่นนี้ ชำระสะสางสิ่งที่ตกค้าง ขาด ๆ บิ่น ๆ เลอะ ๆ เลือน ๆ ของภาษาอังกฤษที่หลงเหลืออยู่ในสมอง การลงมือ “ล้างบ้าน” ด้วยตัวเองเช่นนี้ ได้ผลดีกว่าการที่ท่านนั่งอยู่ในห้อง รอให้อาจารย์เข้ามายื่นกระดาษพร้อมคำศัพท์ 100 คำให้ท่านเช็กดูว่าท่านรู้กี่คำ แล้วก็ประเมินท่านว่า ท่านอยู่ในระดับ beginner, intermediate หรือ advanced เสียอีก เพราะถึงแม้ท่านจะรู้ผลการประเมิน สมองของท่านก็ออกแรงมากขึ้นกว่าเดิมนิดเดียวเท่านั้นเอง แต่ถ้าท่านออกแรงเขย่าสมองและขยับปากของท่านด้วย 2 คำถามนี้ และคำถามอื่น ๆ ที่คล้าย ๆ กันนี้ บ่อย ๆ ทุกวัน ท่านก็จะเริ่มรู้จัก “อวัยวะ” ของท่านที่เป็น “โรค” และหาทางรักษาโรคนั้นได้
@@@@@
ในประเทศไทยซึ่งไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการหรือภาษาที่สอง การเริ่มฝึกพูดภาษาอังกฤษให้ได้ผลดี ควรจะทำได้พร้อมกับการฝึกอ่าน และฝึกฟังเรื่องง่าย ๆ ซึ่งในเว็บนี้ก็มีไว้ให้พอสมควร เช่น
ฝึกภาษาอังกฤษ โดยการฟังและอ่านตาม คลิปคาราโอเกะ - e4thai
ดาวน์โหลด Story เกือบ 2,000 เรื่อง เพื่อฝึกฟังและอ่านตาม (ไม่ยากครับ !!)
ชม 86 คลิป American Idioms ฟังง่าย-เข้าใจง่าย-ใช้บ่อย-มี subtitle บนจอด้วย
ข่าวเดียวกัน มี 3 ระดับ ง่าย-กลาง-ยาก ให้เลือกฝึกอ่าน และฟัง - e4thai
การที่เรามี 1 ปากทำหน้าที่ในการพูด แต่มีตาถึง 2 ตา และหูถึง 2 หู รวมเป็น 4 นี่น่าจะบอกเป็นนัยแล้วว่า ปาก 1 ปากคงยากที่จะทำอะไรได้สำเร็จถ้า 2 ตา 2 หูไม่อยู่คอยช่วย การฝึกพูดภาษาอังกฤษก็คงเช่นเดียวกัน
หากต้องการทราบการอัพเดทของ
บทสนทนาอังกฤษ
ฝึกภาษาอังกฤษเอง วิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษ: หนทางมีที่คนไม่ค่อยเดิน และเรื่องที่เกี่ยวข้อง แนะนำให้กด
ที่ facebook ด้านล่างนี้เลยค่ะ เผื่อที่จะได้อัพเดทก่อนใคร
อัพเดทเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ในหมวดหมู่ของ บทสนทนาอังกฤษ เรื่อง บทสนทนาอังกฤษ ฝึกภาษาอังกฤษเอง วิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษ: หนทางมีที่คนไม่ค่อยเดิน






วงษ์คำเหลา คฤหาสน์เพี้ยน
เป็นต่อ ขั้นเทพ
คุณชายรัชชานนท์
ดูชิงร้อยชิงล้าน
ฟาร์มเอ๋ย ฟาร์มรัก
มนต์จันทรา
มัจจุราชสีน้ำผึ้ง
ข้าวนอกนา
หัวใจเรือพ่วง
ละคร บุญผ่อง
ยัยบุญกับหมอทึ่ม
เรือนเสน่หา
ออฟฟิศพิชิตใจ
แสนซนค้นรัก
คุณชายรณพีร์
ละครนางมาร
ฟ้ากระจ่างดาว
แค้นเสน่หา
รออัพเดท...
One Piece
Naruto
Bleach
Beelzebub
Toriko
Fairy Tail