สวัสดีครับ ในฐานะที่เคยผ่านอะไรมา ก็อยากจะแชร์ประสบการณ์เรื่องราวของตัวผมเอง และสิ่งต่างๆที่ผมได้เรียนรู้บทเรียนชีวิตในฐานะ “ผู้ชายเจ้าชู้” คนหนึ่ง
ปีนี้ผมอายุย่างเข้า 25 พอดี(เบญจเพสดีเลย ฮา) ก็ยอมรับครับว่าที่ผ่านมา เป็นคนที่เจ้าชู้พอตัว เวลาไปเที่ยวก็ชอบมองผู้หญิงอย่างที่ผู้ชายทุกคนเค้าทำกัน ไปเที่ยวกลางคืนเมื่อก่อนต้องได้เบอร์สาวกลับมานอนคุยเล่นทุกครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่คุยแปปๆก็เบื่อ
มีอยู่วันหนึ่งเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว ผมได้ไปเที่ยวกับรุ่นพี่ที่ออฟฟิศ ก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ หน้าตาน่ารักคนหนึ่ง ผมก็ลุยเลย(หน้าด้านมาก ฮา) ดุ่มๆเข้าไปคุย ตลกโปกฮาไปเรื่อยสักพักหนึ่งเพื่อทำความรู้จัก ผมก็ขอเบอร์เธอ ตอนแรกเธอก็ไม่ยอมให้ แต่แล้วด้วยความตื๊อครับ(ท่าไม้ตาย ฮา) สุดท้ายเธอก็ใจอ่อนยอมให้เบอร์ผมมา
แต่ก็ขอยอมรับครับว่าตอนนั้นเป็นเสือยังไม่สิ้นลาย(ฮา) เพราะคืนนั้นผมได้เบอร์สาวมา 4 คน!!!! (รวมเธอคนนี้ด้วย)
หลังจากนั้นผมก็เริ่มโทรหาเธอ คุยกันได้สักพัก มีออกไปกินข้าวกัน ถ้าจะให้บรรยายเกี่ยวกับเธอ......
เธอเป็นคนที่ร่าเริงมากครับ เธอไม่ดื่มเหล้า แต่บางครั้งเธอก็ชอบไปเที่ยว(ฮา) เธอเคยเล่าให้ผมฟังว่าสมัยเรียนมหาลัย เธอเคยเป็นลีดด้วยนะ แต่เป็นลีดโจ๊ก(ฮา) ส่วนเธอตัวเองในตอนนั้นทำงานอยู่บริษัทๆหนึ่ง เงินเดือนก็ไม่มากมายอะไร
แต่สิ่งที่ผมชอบในตัวเธอมากที่สุดคือ
สมัยนั้นผมใช้ไอโฟน4 (4S ยังไม่เข้าเลยมั้ง) เธอใช้ไอโฟน2 ไอโฟนของเธอนี่ก็เรียกได้ว่าสภาพเยินมากๆครับ ผมเคยถามเธอว่า ทำไมไม่ซื้อโทรศัพท์ใหม่ล่ะ มันเยินหมดแล้ว สิ่งที่เธอตอบผมก็คือ เธอบอกว่าโทรศัพท์เครื่องนี้ เป็นสิ่งที่เธอทำงานหาเงินมาซื้อเองโดยไม่ขอพ่อแม่ เธอมักจะเก็บของทุกๆอย่างที่เธอเก็บเงินซื้อเองทั้งหมด เพราะเธอรักในของทุกๆชิ้นที่เธอทำงานเพื่อได้มันมา ผมชอบความคิดเธอมากๆ เพราะตัวผมเองคุยกับผู้หญิงมาค่อนข้างเยอะ ก็จะไม่ค่อยเจอแบบนี้เท่าไร
ผมเคยถามเธอว่าอนาคตเธออยากจะทำอะไร เธอตอบผมว่า ก็คงทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปสักพัก เธอฝันไว้ว่า วันนึงเธอจะเปิดบริษัทของตัวเอง แต่เธอก็ไม่รู้ว่าเมื่อไร เพราะมันก็เป็นเรื่องในอนาคต...
แต่หลังจากนั้นไม่นาน.............
ผมก็ชิ่งหนีจากเธอออกมาครับ ชิ่งแบบหายไปดื้อๆเลย................
บางคนอาจจะงงว่าทำไมผมถึงทิ้งชิ่งหนีเธอออกมา...............
......................ผมสารภาพตรงๆเลยละกันนะครับ ช่วงนั้น ผมคุยกับผู้หญิง 6 คน!!!!! (O_o) และก็ใช้ชีวิตตามประสาเพลย์บอยไปเรื่อย...
จวบจนเวลาก็ผ่านเลยมาประมาณ 2 ปี
2 ปีที่ผ่านมา ตัวผมเองก็ยังใช้ชีวิตไปตามประสา คุยคนโน้นคนนี้ไปเรื่อย จนหลังๆเราเริ่มรู้สึกว่า เรายิ่งไปไขว่คว้ามากเท่าไร สิ่งที่เราเองต้องการจริงๆนั้น มันยิ่งห่างไปเรื่อยๆเท่านั้น.................
และแล้วก็เกิดเรื่องหนึ่งที่ทุกคนอาจจะพอเดาได้ก็คือ...............
ใช่ครับ......
ตลอดระยะเวลาประมาณ2ปีที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่ยังอยู่ในหัวผมลึกๆมาตลอด คือผู้หญิงคนที่ผมชิ่งเค้าออกมาคนนี้เนี่ยแหละครับ ตลอดเวลาที่ผ่านๆมา เธอมักจะโผล่เข้ามาในความคิดผมเสมอๆ ตัวผมเองเคยคิดที่จะโทรไปหาเธอหลายครั้ง......... แต่ในใจผมเองนั้น............... ผมรู้สึกละอายมากใจตัวเองมากๆครับ...............ในการที่จะโทรหาเค้า อาจจะเป็นเพราะว่าผมไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เธอฟัง..........
เท้าความกลับไปหลังจากที่ผมชิ่งเค้าออกมานิดนึง ผมกับเธอไม่ได้คุยกันเลยประมาณครึ่งปี(เพราะเธอเองก็เป็นผู้หญิงจะโทรหาผู้ชายก็คงกระไรอยู่)
จนกระทั่งปีใหม่ย่างเข้าปี 2012 ผมเช่ารถตู้ไปเที่ยวหาดใหญ่กับครอบครัว และเป็นปีใหม่ปีนั้นเป็นปีที่หาดใหญ่น้ำท่วมครับ ขณะที่ผมอยู่บนรถตู้กำลังหนีน้ำท่วมกลับกรุงเทพ..... โทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบโทรศัพท์ออกมา........
หน้าจอไอโฟนเน่าๆของผมโชว์ชื่อของเธออยู่...........เธอโทรมาหาผมครับ........ ซึ่งตัวเธอเองก็คงรวบรวมความกล้าพอสมควร....
ลองเดาดูครับว่าผมทำยังไงต่อ
.......
.............
แต่ทุกคนคงเดาผิด(ฮา)
...............ผมตัดสินใจไม่ยอมรับสายครับ!!!!!!!
เพราะผมไม่รู้ว่าผมจะอธิบายให้เธอฟังยังไง ประกอบกับว่า ผมในตอนนั้น ยังไม่รู้ใจตัวเองจริงๆเลยก็ว่าได้
หลังจากปีใหม่ปีนั้นผมกับเธอก็ขาดการติดต่อไปจริงๆ........
หลังจากนั้นผ่านไปอีกประมาณปีครึ่ง
จริงๆแล้วตัวผมเองเป็นคนที่ขี้ลืมมากๆ ขนาดแฟนเก่าที่ผ่านๆมา ยังจำไม่ได้เลยครับ ว่าคบกันช่วงไหน นานเท่าไร ผู้หญิงบางคนที่เคยคุยยังจำชื่อไม่ได้เลยครับ
แต่.......เธอคนนี้ไม่เคยหายไปจากความทรงจำส่วนลึกผมเลย...... ผมจำได้ทุกอย่าง ว่าเจอเธอที่ไหน กระโปรงเธอสีอะไร ไปกินข้าวกันที่ไหน ไปเดินเที่ยวไหนกันต่อ เธอใส่ชุดอะไร ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับเธอนั้น............
มันยังฝังลึกอยู่ในสมองส่วนลึกของผมอยู่..........ไม่เคยหายไปไหน........
หลังจากนั้นผมก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพราะเริ่มรู้สึกว่า ยิ่งเราทำตัวแบบนี้ เราจะเจอคนที่เรารักจริงๆได้ยังไง ประกอบกับปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปอยู่ใต้ร่มกาสาวพัตร มาแล้วด้วย เลยทำให้เรารู้สึกตระหนักต่อเรื่องบาปบุญคุณโทษมากขึ้น(จากสมัยก่อนไม่เคยเชื่อเรื่องศาสนาเลย)
ด้วยความที่ผมเริ่มปักใจเชื่อเรื่องเวรกรรมมากขึ้น.... ทุกวันนี้ผมก็คิดว่าผมกำลังใช้กรรมที่เคยก่อมากับผู้หญิงคนอื่นๆอยู่ก็ได้(แอบฮา) จากชีวิตที่เคยคุยกับผู้หญิงหลายๆคนก็ค่อยๆหมดไป โฟกัสเรื่องงานกับครอบครัวมากขึ้น......
ตอบกลับ
จนกระทั่งวันหนึ่ง...... ผมพยายามตัดสินใจที่จะโทรหาเธอครับ ใช้เวลาในการวบรวมความกล้าเป็นเดือน (ปกติหน้าด้านมากเมื่อก่อนเดินดุ่มๆขอเบอร์สาวตลอดไม่เคยอาย ฮา)
แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าโทรครับ..... เลยตัดสนใจไลน์ไป
“ขอโทษนะครับ” ผมทักไปหาเธอ
เธอตอบว่า “ค่ะ?”
ผมถามเธอว่า “เอ่อ พอจำเราได้ไหม”
สักพักเธอก็ตอบมาว่า “ใช่ XXX รึเปล่า?”
ใช่ครับ............ เธอยังจำผมได้.... หลังจากนั้นเราก็คุยกันพักหนึ่ง จริงๆในใจผมตอนนั้นคิดไว้ว่าเธอต้องถามผมแน่ๆว่าหายไปไหนโน่นนี่นั่น
แต่.... ผมคิดผิดครับ สิ่งที่เธอถามผม ทำให้ผมอึ้งมาก......
เธอถามว่า............เธอไปทำอะไรให้ผมโกรธรึเปล่า ถึงได้หายไป....
ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่ผมหายไป..........เธอไม่เคยโกรธผมเลยแม้แต่นิดเดียว.... เธอคิดเอาของเธอเองด้วยซ้ำว่าเธอทำอะไรให้เราโกรธรึเปล่า.......
แต่ที่แย่กว่านั้นคือ....... ผม........บอกเธอว่า โทรศัพท์หายครับ.......
......ใช่....ผมโกหกเธออีกแล้ว.......... ผมยอมรับว่าผมรู้สึกผิดมากๆ แต่ก็ไม่กล้าที่จะเล่าความจริงให้เธอฟัง............
หลังจากวันนั้นมาผมก็ตัดสินใจโทรหาเธอครับ....... ผมก็เลยหลอกถามเธอในเรื่องที่ผมอยากรู้มากที่สุดเรื่องหนึ่ง............
หากต้องการทราบการอัพเดทของ เรื่องผู้หญิง ผู้ชายเจ้าชู้ บทเรียนที่ได้ คำสารภาพจากปากของผู้ชายเจ้าชู้ (คนหนึ่ง) และเรื่องที่เกี่ยวข้อง แนะนำให้กด ที่ facebook ด้านล่างนี้เลยค่ะ เผื่อที่จะได้อัพเดทก่อนใคร
อัพเดทเมื่อ วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ในหมวดหมู่ของ เรื่องผู้หญิง เรื่อง เรื่องผู้หญิง ผู้ชายเจ้าชู้ บทเรียนที่ได้ คำสารภาพจากปากของผู้ชายเจ้าชู้ (คนหนึ่ง)